รฟม.เผยรถไฟฟ้าสายสีส้ม อัยการตรวจร่างสัญญาแล้วเสร็จ ลุ้นชงบอร์ด ม.ค.นี้
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยระบุว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ปัจจุบัน รฟม.อยู่ระหว่างจัดทำร่างสัญญา ซึ่งตามขั้นตอนหากสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบแล้วเสร็จ จะต้องมีการรายงานมายังบอร์ด รฟม.พิจารณาอีกครั้ง ก่อนเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา
อย่างไรก็ดี เรื่องนี้บอร์ดได้มีนโยบายด้วยว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ รฟม.ต้องดำเนินการ เพราะโครงการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนนี้ ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 อีกทั้งปัจจุบันโครงการก่อสร้างงานโยธาฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 98%
ดังนั้น ต้องเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเปิดเดินรถ เพราะสัญญาเดินรถจัดรวมอยู่ในสัญญาร่วมลงทุนที่อยู่ระหว่างพิจารณาด้วย โดยเบื้องต้นทราบว่าหากมีการลงนามสัญญากับเอกชนแล้ว จะมีการทยอยจัดหาขบวนรถมาให้บริการส่วนตะวันออกโดยเร็วที่สุด คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี สอดคล้องกับเป้าหมายเปิดให้บริการเส้นทางนี้ในปี 2568
“เรื่องนี้บอร์ดเรามีนโยบายให้เร่งอยู่แล้ว เป็นเรื่องด่วนที่ต้องทำเพื่อไม่ให้กระทบบริการประชาชน โดยเฉพาะการเปิดเดินรถฝั่งตะวันออก แต่เรื่องนี้แม้จะเร่งด่วนก็ต้องทำให้โปร่งใส รอบคอบ ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีนโยบายว่าให้รอผลการพิจารณาตามกระบวนการศาลปกครองด้วย ซึ่งหากร่างสัญญาแล้วเสร็จ รฟม.ก็ต้องส่งเรื่องนี้ไปยังกระทรวงฯ เพื่อพิจารณาต่อ และตัดสินใจในการดำเนินการ ซึ่งเบื้องต้นจะมีการประชุมบอร์ด รฟม.ในสิ้นเดือน ม.ค.นี้ ก็ต้องรอดูว่าจะมีการรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้หรือไม่”
รายงานข่าวจาก รฟม.เผยว่า ภายหลัง รฟม.คัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านการประเมินสูงสุด ขณะนี้ รฟม.ได้จัดทำร่างสัญญา พร้อมส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบ ซึ่งดำเนินการตรวจสอบและส่งกลับมายัง รฟม.เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนหลังจากนี้ รฟม.เตรียมรายงานร่างสัญญาดังกล่าวไปยังบอร์ด รฟม. และกระทรวงคมนาคมพิจารณา
ก่อนเสนอไปยัง ครม.พิจารณาอนุมัติ เพื่อดำเนินการลงนามสัญญาร่วมกับเอกชนผู้ยื่นข้อเสนอที่ผ่านประเมินสูงสุด เบื้องต้นไม่สามารถบอกได้ว่าจะลงนามตอบกรอบกำหนดในเดือน ม.ค.นี้หรือไม่ เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็มีนโยบายให้รอผลการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมของ ศาลปกครอง