ถึงคิวของอีกหนึ่งหนังที่ไปเฉิดฉันได้รับเสียงตบมือกระหึ่มจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีปัจจุบันมาแล้ว
กับผลงานเดบิวต์ในฐานะผู้กำกับเรื่องแรกของดาราชายหนุ่มประเทศเกาหลีที่กำลังเดินทางมาแรงสุดๆในเวทีสากล อย่าง “อีจองแจ” รวมทั้งนี่เป็นผลงานที่เขาภูมิใจพรีเซ็นท์ “Hunt ล่าคนเลียนแบบคน” ดีเดือดด้วยแอคชั่นระดับสมคำร่ำลือ ที่พิจารณาออกมาจากประสบการณ์คนตรงหน้าแวดวงหนังโดยแท้จริง เล่นใส่เกียร์ชนหัวใจผู้ชมแบบไม่มียั้งตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม
Hunt ล่าคนเลียนแบบคน เกิดเรื่องราวของ พัคพยองโฮ กับ คิมจองโด ต่างทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้ที่ประจำหน่วยรักษาความมั่นคงและยั่งยืนแห่งชาติ การทำงานในหน้าที่ของเขาค่อนข้างจะมั่นคงรวมทั้งได้รับการยินยอมรับจากหลายข้าง แต่ว่าปรากฏว่าเหตุการณ์กลับ เมื่อมีสายประเทศเกาหลีเหนือแฝงด้วยเข้ามาที่ฝั่งประเทศเกาหลีใต้ ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเปิดฉายฟาดฟันแล้วก็ค้นกล่าวโทษจริงที่แอบอยู่ว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่?
ก็คือไม่เกินจริง…ที่ต้องการจะยืนขึ้นตบมือให้กับความสามารถและก็ท่าทางแนวทางการทำหนังของ อีจองแจ เรื่องได้ว่าแค่เพียงทำออกมาเรื่องแรก เขาก็ตั้งมาตรฐานให้กับตนเองค่อนข้างจะสูงพอสมควร จากเนื้องานที่ออกมานั้นสัมผัสได้ชัดๆเลยว่าเขาเก็บเกี่ยวแล้วก็ดึงเอาประสบการณ์ที่เขาแวดวงมาเกือบจะ 30 ปีกับหนังกว่า 30 เรื่องมาใช้ประกอบร่างในหนังประเด็นนี้ด้วยความละเมียดละไมและก็ตั้งมั่นอย่างมั่นคง เนื่องจากเขาดึงเอาจุดที่ผู้ชมต้องการมอง ใส่อารมณ์ความรู้สึกที่ผู้ชมจำเป็นที่จะต้องเกาะหน้าจอแบบลุกไปไหนมิได้ ใช่แล้ว…ยุทธวิธีพวกนี้มันถูกใส่ไว้ภายในหัวข้อนี้แทบทั้งสิ้น
ถือว่า อีจองแจ สอบได้ในฐานะคนทำหนังจากผลงานเรื่องแรกอยู่ ถึงแม้ถ้าเกิดดูโดยภาพรวมๆแล้วนั้น Hunt ล่าคนเลียนแบบคน บางครั้งอาจจะยังไม่ใช่หนังแอคชั่นที่เพอร์เฟ็คที่สุด แม้กระนั้นอย่างต่ำๆก็ตอบปัญหาและก็เข้าถึงอารมณ์ผู้ชมเจริญอย่างหลีกเลี่ยงมิได้เช่นเดียวกัน เขายังรับหน้าที่ร่วมเขียนบทหนังประเด็นนี้เองด้วย กล่าวได้ว่าทำแทบจะทุกหน้าที่ในหนังประเด็นนี้เลย พวกเราก็เลยได้ได้ผลงานที่ความทุ่มเทของเขา ผ่านการออกแบบฉากเด็ดๆบทกลุ่มคำคมๆและก็ไฮไลต์ที่บอกได้เลยว่า…เดือดตั้งแต่นาทีแรกของหนัง
แต่ก็มีสิ่งที่ยังรู้สึกไม่ค่อยชื่นชอบเพียงแค่นั้นกับ Hunt ล่าคนเลียนแบบคน อยู่ด้วยเหมือนกัน ส่วนประกอบของบทหนังที่ออกจะเนื้อหายิบย่อยมากมาย ผู้แสดงก็มากไม่น้อยเลยทีเดียว จังหวะการเล่าเรื่องบางครั้งก็อาจจะช่วยบิวต์อารมณ์ผู้ชมได้ตลอดระยะเวลา แต่ว่าหนังให้อารมณ์ราวกับแผนภูมิขึ้นลงอยู่บ่อยมาก ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ต่างๆในหนังจะเดือดไม่เบาๆเลยก็ตาม แต่ว่าคิดว่าแนวทางของเรื่องรวมทั้งการเล่าเรื่องยังไปควบคู่กันมิได้ราบรื่นซักเท่าไหร่นัก แต่ว่าก็ไม่ถึงกับเป็นจุดที่ด้อยของหนังอะไร
รีวิวหนัง Hunt ล่าคนเลียนแบบคน
อีกสิ่งที่แอบขัดใจน้อยก็มีงานตัดต่อภาพยนตร์ของ Hunt ล่าคนเลียนแบบคน ที่อีกเล็กน้อยก็จะก่อให้ผู้ชมน่ารังเกียจมึนหัวได้แล้ว มุมกล้องถ่ายภาพมิได้ห่วย เพียงแค่จังหวะการตัดต่อแบบฉึบฉับไปๆมาๆ ราวกับยัดฟุตเทจใส่เข้ามาจำนวนมากแบบที่บางซีนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องตัดฉับเข้ามาก็ได้ โน่นก็เลยเป็นจุดที่ทำให้รู้สึกต่อตัวหนังหัวข้อนี้ว่าไม่ค่อยกระชับสักเท่าไหร่ หากว่าพร่ำสอนจังหวะการเล่ารวมทั้งงานตัดต่อในเข้าที่เข้าทางได้มากกว่านี้ ตัดทิ้งไปสักโดยประมาณ 10 นาที คงจะใกล้ความยอดเยี่ยมมากกว่านี้
ทางด้านการแสดงเกือบจะไม่ต้องบอกอะไรมากมาย เพียงแค่มี อีจองแจ กับเพื่อนสนิท “จองอูซอง” โคจรมามาปะฉะดะกันบนหน้าจอหนังเรื่องเดียวกันแล้ว จำเป็นจะต้องให้อธิบายอะไรอีก เนื่องจากว่าพวกเขาต่างเป็นผู้แสดงนำชายประเทศเกาหลียอดความสามารถรุ่นคราวเดียวกัน ที่แตกละคนต่างก็แงะอินเนอร์และก็ความสามารถความเก๋าในแวดวงออกมาพ่นไฟใส่กันแบบไม่มีผู้ใดยอมคนไหน ดาราหนังสมทบผู้อื่นทั้งยัง “จอนฮเยจิน” หรือ “ฮอซองแท” ก็จัดว่าเล่นก้าวหน้าตามความสามารถของพวกเขา แม้ว่าจะแอบเสียหายสักนิดสักหน่อยที่บทของพวกเขานั้นใช้งานได้ไม่ค่อยคุ้มกับความสามารถนัก
แต่ว่าแปลงเป็น “โกยุนจอง” ศิลปินสาวที่กำลังเดินทางมาแรงที่สุดในตอนนี้ เป็นผู้ที่ทำให้ผู้แสดงที่ได้รับหน้าที่นั้นกำเนิดมิติขึ้นมาในหนังได้อย่างเด่นมากมาย ความสามารถการแสดงของคุณคนที่เพิ่งเดบิวต์เข้าแวดวงมาได้แค่เพียง 2-3 ปี แล้วก็ประเด็นนี้ก็ได้ผลงานหนังเรื่องแรกของคุณด้วย แต่งัดพลังรวมทั้งอินเนอร์ใส่เต็ม เป็นติดอยู่แรกเตอร์น่าค้นหารวมทั้งลึกลับในขณะเดียวกัน (เผื่อถ้าเกิดคนไหนกันไม่ทราบน้องคนนี้ คุณเป็น นักซู ในซีรีส์ Alchemy of Souls ที่พึ่งจะจบไปนั่นเอง)
แน่ๆว่า Hunt ล่าคนเลียนแบบคน เป็นหนังที่มีอิทธิพลไม่น้อย เนื่องจากใครๆก็ต้องการมาร่วมแจม การดูหนังหัวข้อนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นความเบิกบานใจอีกแบบหนึ่ง เนื่องจากพวกเราจะได้มองเห็นกองทัพดาราหนังตัวเป้งๆของประเทศเกาหลี โผล่มาขอมีซีนอยู่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยทีเดียว มีอีกทั้งน่าเขียนจิตใจบ้างรวมทั้งใส่เข้ามาเพราะเหตุใดบ้าง ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันที่ได้มองเห็นคนแวดวงรื่นเริงประเทศเกาหลี พร้อมใจกันต้องการจะมาเล่นหนังให้กับเพื่อนพ้องในแวดวงอย่าง อีจองแจ ผู้นี้
สรุปว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Hunt ล่าคนเลียนแบบคน นับว่าเป็นหนังแอคชั่นบาดใจที่ออกจะสร้างความเอ็นหน้าจอยให้กับผู้ชมอยู่ไม่น้อยเลย หนังอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีกลิ่นความเป็น Internal Affairs อยู่บ้าง แต่ว่าก็มีเรื่องมีราวราวที่เอกเขนกเป็นของตนเองดังเช่นเดียว ฉากแอคชั่นและก็ซีนบู๊ดุเดือดเลือดพล่านอย่างมาก แปลงเป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่แทบเบื่อฉากพวกนี้ แต่ว่าทุกฉากทำออกมาเจริญแล้วก็น่าประทับใจจริงๆถือได้ว่าเป็นก้าวย่างใหม่ของผู้แสดงสู่ผู้กำกับหนังที่จัดว่า…ใช้ได้เลยกับผลงานเรื่องแรกของเขา