หนังหัวข้อนี้ก็ได้โอกาสลงหน้าจอฉายสักครั้ง เนื่องจากประจันหน้ากับเหตุการณ์วัววิด-19 ไปแบบเต็มๆทำให้เลื่อนฉายซ้ำแล้วซ้ำแล้วมาตลอด 2 ปีให้หลัง
นี่เป็น “Love เลย 101″ หนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่มีกลิ่นความเป็นอีสานแบบตรงไปตรงมาท่ามกลางบรรยากาศของเมืองร้อยเอ็ด ผ่านการร้อยเรียงเรื่องรักที่เป็นการกลับมาสู่วังวนหนังจำพวกนี้อีกรอบของ กิน จ๊กมก ภายหลังที่ห่างหายไปครู่หนึ่ง Love เลย 101 เกิดเรื่องราวความรักบนรากฐานของปริศนาที่ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อกระบี่แดงตำรวจชายหนุ่มใหญ่คว้าหัวใจของนางสวรรค์อย่าง แพ็ต ไปครอบครอง ปฐมบทที่ความรักที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นระหว่างคนสองผู้ที่ไม่เหมือนกันด้วยวัย ท่ามกลางการเช็ดกสังคมเพ่งเล็งถึงแบบอย่าง “ความเหมาะสม” ในความเกี่ยวข้องของทั้งสอง นี่เป็น รักจริงที่บริสุทธิ์ หรือ เพียงแค่รักหยาบ ที่ชะตากรรมนำพาให้พวกเขาทั้งสองจำต้องมาพบเจอ
นี่เป็นผลงานของนักสร้างภาพยนตร์ชายหนุ่มแบบใหม่ อย่าง “เอ็กซ์ วัชรดงษ์” ที่พึ่งจะแจ้งมีต้นเหตุมาจากผลงาน ‘แดง พระโขนง‘ ไปหมาดๆจริงๆแล้วหนังประเด็นนี้น่าจะเป็นผลงานชิ้นแรกของเขาด้วย เนื่องจากว่าหนังคงจะถ่ายเอาไว้ก่อน ตั้งแต่โลกจะรู้จักกับวัววิด-19 แต่ว่าพอดิบพอดีหนังชักช้าแล้วก็ได้วันฉายตามหลังมา โดยเขาควบคุมจากบทและก็เรื่องราวที่วางเค้าเรื่องด้วยความสามารถของ กิน จ๊กม๊ก นั่นเอง
แน่ๆว่าสิ่งในหนึ่งที่คนใดกันแน่น่าจะเป็นไม่ค่อยสบายใจแล้วก็เป็นห่วงเกี่ยวกับรายละเอียดของหนังหัวข้อนี้ ตั้งปัญหาถึงความเหมาะสมแล้วก็ความถูกต้องแน่ใจของเงื่อนหัวข้อความรักที่เกิดขึ้นระหว่างนักแสดงอีกทั้ง 2 ในหนัง แน่ๆว่ามันออกจะสุ่มเสี่ยง แม้กระนั้นปริศนาเดียวกันกับที่คนภายนอกถามนั้น ก็ถือปัญหาหลักที่อยู่ในหนังเช่นกัน และก็บอกได้เลยว่าหนังหัวข้อนี้แทบจะไม่มีอะไรสื่อถึงความอนาจารเลย พวกเขาเลือกถ่ายทอดออกมาตามอารมณ์และก็ความรู้สึกรักที่ไม่ถูกที่ผิดทางของคนแต่ละวัยเพียงแค่นั้น
กระบี่ตำรวจ กับ ผู้เรียน ใครๆตั้งแง่เอาไว้ก่อนแล้วว่าเป็นหัวข้อที่ไม่น่าจะทำออกมาเป็นหนัง แม้กระนั้นหนังเองก็มีจุดแก้ต่างแล้วก็บากบั่นชี้แจงเป็นอย่างยิ่งขั้นตอนในตนเองค่อนข้างจะใช้ได้ มีที่ไปที่มาในหัวข้อนั้น แม้ว่าจะยังไม่ใช่สิ่งที่เพอร์เฟ็คอะไรสักเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงเจตนาของผู้แสดงทั้งสองได้ หากว่ามันจะผิดต้องตามครรลอง ความเหมาะสม แล้วก็ข้อบังคับเลยก็ตาม
บอกตรงๆว่า Love เลย 101 ก็ไม่ใช่หนังที่ห่วยแตกแบบที่ตั้งแง่เอาไว้ล่วงหน้า บางครั้งอาจจะเป็นเนื่องจากว่าความมานะบากบั่นสร้างโทนออกมาเป็นหนังรักกล้วยๆก็เลยทำให้หนังยังรู้ว่ามาเป็นธรรมชาติแล้วก็ซื่อสัตย์สุจริตกับจริตของผู้ชมภาพยนตร์ไทย ที่แท้บทหนังก็บางทีอาจจะมิได้เรียกว่าดีสักเท่าไหร่ เค้าเรื่องมีอยู่แค่เพียงถือมือเดียว แต่ว่าเอามาเผยขยายออกเป็นงานเป็นการ ระหว่างที่นั่งมองอยู่นั้นก็ยังแอบมีความคิดว่าเพียงแค่ 90 นาที..นานจังเลย
Love เลย 101 ก็เลยให้อารมณ์เสมือนนั่งมองเอ็มวีเพลงลูกทุ่งแบบที่มีสตอปรี่ยาวๆเล่าไปเรื่อยอีกทั้งมุกและก็จังหวะในหนังเกือบจะหาอะไรใหม่มิได้เลย ก็คือโทนหนังรักทั่วๆไปที่เคยเห็นมาบ่อยๆแต่ว่าอย่างต่ำหนังก็ยังใส่จังหวะเข้ามาในจังหวะที่กำลังใช้ได้ มันได้แออัดใส่มุกที่เกินจำเป็น มีซีนดราม่าและก็ซีนอารมณ์เคล้ากันไปเรื่อยถึงแม้ว่ามุกบางมุกจะรู้สึกเชยแล้วก็ยังติดมุมมองการเหยียดหยามเพศรวมทั้งสังคมอยู่ไปสักนิด
อีกสิ่งที่หนังยกขึ้นมาอย่างเด่น ซึ่งก็คือการถือใช้เพลงอมตะของนักแสดงในตำนาน “เวลาเย็น ข้อตกลง” มาเป็นส่วนประกอบเสริมของหนัง อารมณ์ราวกับจะเป็นหนังเพลงหรือมิวสิคัล แม้กระนั้นก็ยังมิได้กระจ่างแจ้งอะไรขนาดนั้น โชคร้ายไปนิดหน่อยที่หนังเสมือนจะใช้จุดนี้มาชมเชยของนักร้องลูกทุ่งผู้มีอิทธิพล แม้กระนั้นพลังความพากเพียรที่หนังทำออกมานั้นยังไม่มากพอและไม่แน่ชัดเพียงพอ ก็เลยแปลงเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเสริมแบบผิวเผินเพียงแค่นั้น
เมื่อกล่าวถึงการแสดงของผู้แสดงนำฝ่ายนั้น ก็จัดว่าออกจะใช้ได้ กิน จ๊กมก ก็ถือคล่องแคล่วปร๋อ ด้วยเหตุว่าเขาเล่นจากพล็อตเรื่องที่แต่งขึ้นมาเอง ความเป็นมือโปรของเขาก็คือช่วยหามหนังทั้งยังเรื่องเอาไว้ได้อยู่มือ ในเวลาที่ “มั่งคั่งญ่า อาร์ไทย” ที่บางทีอาจจะไม่ใช่ผลงานหนังเรื่องแรกของคุณ แม้กระนั้นการแสดงของคุณจัดว่ามองเห็นความก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ บางครั้งก็อาจจะยังไม่ใช่แอคติ้งที่ดีงามรวมทั้งเพอร์เฟ็ค แต่ว่าคุณก็ใช้ความเที่ยงธรรมชาติของตนออกมาเป็นเสน่ห์ได้ด้วยดี
สรุปว่าโดยสรุปแล้วนั้น Love เลย 101 เป็นหนังรักโรแมนติกที่ค่อนข้างจะให้รสสัมผัสที่เชยไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่าก็สัมผัสได้ถึงความสุจริตใจในตัวของมันเองได้อย่างแน่ชัด ขั้นต่ำหนังก็มีพล็อตเรื่องที่แจ่มชัดดีแล้วก็แทบไม่เฉไฉออกสมุทรสักเท่าไหร่ มันก็เป็นหนังที่พอใช้ได้เพลิดเพลินๆแล้วก็ย่อยง่าย แม้กระนั้นในเวลาเดียวกัน หนังก็ยังไม่มีอะไรเป็นที่น่าจำด้วยอย่างเดียวกัน