หนังใหม่ รีวิวหนัง วิภาควิจารณ์หนัง The Forgotten Battle
ปรับโหมดมาที่หนังสงครามกันบ้าง นี่ไม่ใช่หนังสงครามบ็อกซ์บัสเตอร์ทุนสร้างขึ้นมาจากฮอลลิวูด แม้กระนั้นงานการผลิตจากฝั่งยุโรป นี่เป็น “The Forgotten Battle” (การทำศึกที่ถูกลืม) หนังดราม่าที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศของสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนปลาย ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านผู้แสดงสำคัญๆทั้งยัง 3 คน ที่กลับเชื่อมโยงกันจากผลพ่วงของการสู้รบอันแสนร้ายแรง และก็เปลี่ยนออกมาเป็นหนังสงครามที่มิได้ทุนครึ้ม แต่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยบรรยากาศในตัวของมันเอง
The Forgotten Battle เกิดเรื่องราวเกี่ยวกับแนวร่วมนับพันร่วมรบกับกองทัพเยอรมันบนเกาะวอลเคเรน จังหวัดเซลันด์ ในพฤศจิกายน 1944 ทำให้ชีวิตน้อยๆทั้งยัง 3 ชีวิตเข้ามาเกี่ยวเนื่องกันอย่างแยกไม่ออก อีกทั้งเด็กผู้ชายชาวดัทช์ที่จำเป็นต้องต่อสู้กับทหารเยอรมัน, นักบินเครื่องกรองคนประเทศอังกฤษ รวมทั้ง เด็กสาวชาวเซลันด์ ที่จำยอมจับกลุ่มต้านในตอนแรก อีกทั้งสามจำเป็นต้องกระทำตกลงใจที่สำคัญยิ่งยวด ซึ่งไม่เพียงแค่มีผลต่อเสรีภาพของตนเองเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นยังหมายคืออิสระของคนอีกทั้งภูมิภาคอีกด้วย
ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า The Forgotten Battle มีส่วนประกอบรวมทั้งบรรยากาศที่คล้ายกับหนังสงครามฟอร์มใหญ่ อย่าง “Dukrik” ของ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ไม่ว่าจะเป็นการเล่าที่มีการแบ่งเรื่องราวเหตุการณ์ที่แตกต่างออกไปของ 3 ผู้แสดงในขณะใกล้เคียงกัน กับงานดีไซน์ศิลปต่างๆที่ออกมาเช่นเดียวกับมีแรงผลักดัน แต่ว่าก็ถือได้ว่าเป็นวิธีการทำการบ้านเก็บเนื้อหาโทนของสงครามโลกเอาไว้ได้ค่อนข้างจะพึงพอใจ
การเล่าเรื่องของหนังก็จัดว่าสร้างความน่าดึงดูดใจเอาไว้ได้พอได้ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงมุมมองของการทำศึกอีกมุมที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุว่าพวกเราชอบได้มองเห็นเรื่องราวไม่มุมทหารฝั่งอังกฤษ ก็เป็นฝั่งทหารเยอรมันทุ่งนาซี แม้กระนั้นในหนังประเด็นนี้ถ่ายทอดผ่านติดอยู่แรกเตอร์ที่มีฝ่ายสัมพันธมิตรรวมทั้งข้างพลัดพรากจากถิ่นที่ถูกครอบครองอยู่ภายใต้ฝ่ายอักษะ เป็นหนังที่ดราม่าการทำศึกที่มีหลักสำคัญแจ้งชัด แล้วก็พาผู้ชมรู้สึกบีบคั้นไปตามเหตุการณ์ด้วยตลอด 2 ชั่วโมงของหนัง
The Forgotten Battle เป็นแผนการหนังที่ผลิตขึ้นโดยหน่วยงานภายใต้รัฐบาลของเนคุณร์แลน์, ลิทัวเนีย แล้วก็เบลเยียม ทำให้พวกเราบางครั้งอาจจะมิได้คุ้นตาดาราในเรื่องสักเท่าไหร่ ที่ดูท่าจำนวนมากก็เป็นดาราหนังแบบใหม่แม้กระนั้นความสามารถพอได้อย่างยิ่งจริงๆ เริ่มที่ “กิว บล็อม” ดาราหนังชายหนุ่มชาวดัตซ์ที่ผลงานมาตั้งแต่ยังเด็กๆแน่ๆว่าความสามารถของเขาจัดจ้าแล้วก็กล้องถ่ายรูปยังรับเสน่ห์การแสดงของเขาได้อย่างดีเยี่ยม หน้าที่ที่เขาได้รับการยังเกื้อหนุนต่อตัวหนังก้าวหน้าด้วย
ต่อมาก็คือศิลปินชายหนุ่มดาวรุ่ง “เจมี่ แฟลตเตอร์ส” ที่นับว่าเป็นคนใหม่ที่น่าจับตาดูพอได้ แม้การแสดงในหนังหัวข้อนี้นั้นเขาได้เพื่อนพ้องๆดารามาช่วยเอื้อหนุนหน้าที่เอาไว้ แต่ว่าเขาก็คือว่ารับหน้าที่รวมทั้งหน้าที่ในส่วนของตนได้อย่างดีเยี่ยม ในตอนที่อีกคน “ซูซาน แรดเดอร์” ดาราหนังสาวคนเนเธอร์แลนด์ คุณไม่ใช่คนใหม่ในแวดวงอะไร เนื่องจากมีประสบการณ์การแสดงมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อมาในหนังหัวข้อนี้อินเนอร์การแสดงของคุณมาเต็มๆหากว่าส่วนมากจะเป็นโมเมนต์ที่จำต้องเล่นแล้วก็แสดงเพียงคนเดียว แต่ว่าการถ่ายทอดอารมณ์ที่คุณแบกรับอยู่ก็ทำเป็นดี
แต่ว่าหนังก็ยังมีนักแสดงสมทบที่น่าดึงดูดแล้วก็พวกเขาก็ทำเป็นดีพอได้ ไม่ว่าจะเป็น “จนถึง บิจวูต”, “ธีโอ บาร์คเลม–บิกส์”, “สก็อตต์ รีด” รวมทั้ง “ทอม เฟลตัน” ที่พวกเราเคยชินเขากันดีใน Harry Potter ด้วยรายละเอียดของหนังที่เบาๆบังคับขึ้นเรื่อยตามเหตุการณ์การศึกที่เพิ่มแรงกดดันทีละเล็กทีละน้อย หนังสามารถถ่ายทอดมุมมองของการทำศึกที่ออกจะเข้าถึงผู้ชมได้มากกว่า ด้วยเหตุว่าทุกผู้แสดงเป็นเพียงแค่ราษฎรและก็ทหารชั้นผู้น้อยที่มีความติดดินรากต้นหญ้าที่ช่วยเหลือตัวหนังได้ออกจะดี
แต่ว่าแต่ The Forgotten Battle ก็ยังไม่ถึงกลายเป็นหนังสงครามที่บริบูรณ์ระดับมาสเตอร์พีช แต่ว่าเป็นหนังที่มีความเอพิคท่ามกลางบรรยากาศที่ปลุกอารมณ์ผู้ชมแทบทุกนาที หนังอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีความไม่จบสิ้นกระจายในหลายๆจุด แต่ว่าก็ยังไม่ค่อยทำให้ผู้ชมหลุดออกมาจากไปเนื้อเรื่องของหนังเยอะแค่ไหน รวมทั้งยังเพิ่มระดับความกลัดกลุ้มจิตใจคล้อยไปตามบรรยากาศในความกลัดกลุ้มของการสู้รบ
ผลงานการดูแลของ “แมทไซส์ วาน เฮนิงเก้น จูเนียร์” (จากหนัง The Thing) ที่จัดว่าคัมแบ็กกลับมาทำหนังเรื่องยาวอีกรอบในรอบเกือบจะทศวรรษ จัดว่าถ่ายทอดออกมาเจริญ หลายๆส่วนประกอบของหนังทำเป็นถึง แม้ว่าจะเน้นย้ำความเป็นดราม่า มากยิ่งกว่าความใหญ่โตของฉากสู้การศึก แม้กระนั้นหนังก็ยังสร้างความโหฬารได้จากความดราม่าพวกนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากกางทเทิลช่วงท้ายของหนัง รวมทั้งยังจะต้องขอบคุณมากความเข้มข้นรวมทั้งหนักแน่นของพล็อตเรื่องของหนังประเด็นนี้จริงแท้แน่นอน
โดยภาพรวม The Forgotten Battle นับว่าเป็นหนังดราม่าการทำศึกที่ค่อนข้างจะประทับใจ ไล่อารมณ์ของผู้ชมขึ้นไปเรื่อยส่วนประกอบของหนังทำออกมาได้ดิบได้ดีในหลายส่วน งานวางแบบฉากการสู้รบนับว่าทำเป็นเหมือนจริง งานวางแบบเสียง งานตัดแต่งรูปภาพ แล้วก็ถ่ายรูปต่างๆทำออกมาได้น่าพึงพอใจ ทั้งยังยังมีบทหนังที่ค่อนข้างจะเข้มข้นพอได้ แม้ว่าจะยังไม่ใช่บทหนังที่ดีเยี่ยมที่สุด แม้กระนั้นหนังกับสร้างความทรงอำนาจออกมาได้อย่างถูกใจได้ระดับหนึ่ง