ตลอดกับคาวมเย้ายวนที่เกือบจะหมดความน่าเรียกร้องหา(ไปแล้วมั้ง) กับหนังโรแมนซ์อีโรติกสมัยใหม่สุดบันลือโลกใน “The Next 365 Days” ที่กลับมาสืบต่อเรื่องราวครบสามภาคในหนังภาคปัจจุบันนี้ ที่ไม่น่าเชื่อว่าหนังน้ำเสียทำนองนี้จะเปลี่ยนเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่สำคัญของแวดวงหนังในตอนนี้ แต่ว่าเมื่อกล้าทำออกมาแล้ว ผู้ชมก็กล้ามองต่อ แม้ว่าจะรู้สึกกล้ำกลืนไม่น้อย ภายหลังจากภาคที่แล้วทำเอาไว้เจ็บแสบ…แบบไม่น้อยหน้ากันเลย
The Next 365 Days เล่าราวเกี่ยวกับความเชื่อมโยงที่เปราะปราง บนรากฐานของความไว้วางใจแล้วก็ความหึงหวงที่ยังคงคือปัญหาบ่อนทำลายระหว่าง เลาร่า กับ มัสสิโม โดยที่ ท้องนาโช ที่เปลี่ยนเป็นผู้ดื้อดึง ก็กำลังจ้องมองจะสะบั้นความรักของทั้งสองลงเสีย ก่อนเกิดเป็นเงื่อนที่ความรักสามเส้าที่ไม่เคยรู้ว่าจะผลสรุปแล้วจะลงเอ่ยในแนวทางใดกันแน่?
คงจะไม่ต้องเกริ่นอะไรกันมากมายอีกแล้ว เนื่องจากว่าภาคนี้ก็ยังคงได้โอกาสมนักแสดงและก็กลุ่มผู้ผลิตชุดเดิม เนื่องจากว่าเป็นการถ่ายทำสม่ำเสมอมาจากภาคที่แล้วนั่นเอง แน่ๆว่าหนังประเด็นนี้เกือบจะไม่เหลือเนื้อความอะไรอีกแล้ว ด้วยเหตุว่าหนังเกือบจะไม่เคยมีอะไรจุดนั้นมาตั้งแต่เริ่ม โดยเห็นได้ชัดว่าภาคนี้เพียรพยายามอย่างมากที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องหาของหนัง แต่เค้าเรื่องที่อ่อนมากมายๆมาตั้งแต่เริ่ม…แทบทำอะไรมิได้แล้ว
ภาคนี้ผูกปมไปสู่หัวข้อรักสามเส้าเข้าไปอย่างแจ่มชัด แต่ว่าเป็นการใส่เข้าไปแบบแข็งทื่อๆบนฐานรากของความน้ำเสียตามเนื้อเรื่อง รวมทั้งอีกเหมือนปกติ หนังหัวข้อนี้มีรายละเอียดอยู่แค่เพียงจับมือเดียว แม้กระนั้นทำมาร้อยเรียงเป็นหนังเกือบจะ 2 ชั่วโมง ที่เต็มไปด้วยน้ำไร้รสชาติที่แออัดยัดเยียดให้กับผู้ชมแบบอิ่มแทบพุ่งแล้วก็สำลักออกมา ดังนี้จริงๆทำออกมาเป็นหนังสั้น 30 นาทีจบยังได้เลยด้วย
การเล่าเรื่องของหนังก็ยังมีโทนเดิมกับภาคที่แล้ว มีความเป็นหนังผสมมิวสิควิดีโอไปเรื่อยแม้กระนั้นยังดียิ่งขึ้นมานิดหน่อยตรงที่ภาคนี้มีรายละเอียดแทรกกับเรื่องราวแทรกเข้าไปบ้าง ไม่ใช่ว่าโหวกเหวกอะไรก็เปิดเพลง แล้วแพนกล้องทำภาพสโลโมชั่นไปๆมาๆกับภาพทิวทัศน์ราวภาคก่อนทำเอาไว้ แต่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ The Next 365 Days ก็ยังเป็นเสมือนก๊วยเตี๋ยวจานชามนึงที่เต็มไปด้วยน้ำซุป ยังให้เครื่องกับเส้นมาไม่สมดุลเท่าไร
ในระหว่างที่ดีกรีความแซ่บของหนังภาคนี้ที่เผื่อใครกันแน่ต้องการรู้ บอกตรงๆตามความรู้สึกเลยว่า เพิ่มความแซ่บขึ้นจากภาคที่แล้วขึ้นมาอยู่บ้าง มีฉาบวาบหวิวและก็ฉาก 18+ แทรกเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นก็ยังคงเป็นการใส่เข้ามาด้วยฟีลแห้งๆจืดชืดๆที่แปลงเป็นความเพียรพยายาม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหะยั่ว เพียรพยายามโลม เพียรพยายามประทับใจ ทำให้ทั้งหมดทุกอย่างในซีนเล่านี้เป็นสิ่งที่มานะมากเกินความจำเป็น มากมายจนถึงอาจส่งผลให้ผู้ชมเคลิ้มตามกระทั่งเผลอหลับไปได้เลย
ด้วยการที่หนังเพียรพยายามกลับไปขายแนวอีโรติกรวมทั้งวาบหวิวแบบเดิมๆโน่นยิ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อรายละเอียดของหนัง เนื่องจากว่าเอาเข้าจริงๆพวกไดอะล็อกและก็บทต่างๆของ The Next 365 Days เกือบจะมิได้จูงใจผู้ชมสักเท่าไหร่แล้ว ไม่ว่าจะซีนอารมณ์หรือซีนดราม่าอะไรก็แล้วแต่กลับไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเชื่อฟังอะไรอีก เนื่องจากส่วนประกอบทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเปลี่ยนเป็นแนวระดับแบนไปหมดแล้ว
การออกแบบผู้แสดงต่างๆใน The Next 365 Days ก็ยังคงแปลกแล้วก็ขัดใจขัดอารมณ์อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็น 3 ผู้แสดงหลักของเรื่อง ที่ประดิษฐ์ประดอยท่าทีกันมากจนเกินความจำเป็นสักนิดสักหน่อย ทั้งหนังยังมีตัวละครสมทบหลายๆตัวที่เกินจำเป็น โดยยิ่งไปกว่านั้นบทสหายนางเอกที่เป็นค้างแรกเตอร์ที่เสมือนจะดี มาช่วยดึงสติให้ กลับเป็นตัวละครที่เสริมเข้ามารวมทั้งทำให้น่ารำคาญที่สุดในหนังเลยก็ว่าได้
ตกลงว่า The Next 365 Days ดียิ่งขึ้นจาก 365 Days: This Day ขึ้นมาหน่อยเดียว นิดนึงจริงๆตรงที่รายละเอียดของหนังต่างๆมีบทขึ้นมาบ้าง แม้กระนั้นภาพรวมนั้นนี่ก็ยังคงเป็นหนังที่มีส่วนประกอบต่างๆจัดได้ว่าไม่น่าอภิรมย์เท่าใด ไร้ซึ่งเสน่ห์ ขาดอารมณ์ร่วม แม้ว่าจะเป็นหนังโรแมนซ์อีโรติกความคาดหวังจะขายฉากวาบหวิว 18+ แต่ว่าก็ยังคงถากถางใส่เข้ามาแข็งทื่อๆแล้วก็จืดจางไม่น้อย
เมื่อมาถึงตรงจุดนี้ ในฐานะผู้ชมก็กำลังแอบคิดทบทวนด้วยเหมือนกันว่า แฟรนไชส์หนังประเด็นนี้ควรหยุดเพียงพอเพียงเท่านี้ดีไหมนะ? ด้วยเหตุว่ายิ่งหนังสร้างออกมาก็ยิ่งเต็มไปด้วยความซ้ำๆซากๆ รวมทั้งยิ่งทำลายตัวหนังเองอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ซึ่งทางพวกเราที่เป็นลูกค้าก็หวังจิตใจอย่างมากว่า The Next 365 Days น่าจะเป็นข้อสรุปและก็คำลงท้าย อย่าให้ได้มีภาคต่อหรือภาคแยกใดๆก็ตามออกมาอีกเลย …ควรจะเพียงพอเท่านี้เถอะ