มาสานต่อกับหนังแอคชั่นระทึกขวัญภาคต่อ ที่น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์หนังจากเกาหลี นี่คือ “The Witch: Part 2 – The Other One แม่มดสังหาร 2” ที่มาสานต่อเรื่องราวจากหนังภาคแรกเมื่อหลายปีก่อน ที่บางคนอาจจะลืมไปแล้ว
ความเขย่าขวัญเข้ามากับฉากแอคชั่นเชิญชวนสยดสยอง เป็นหนังที่เต็มไปด้วยลักษณะของสูตรสำเร็จ ถึงแม้ภาคนี้จะแอบรู้สึกได้กระจ่างแจ้งว่า…เสน่ห์เริ่มแรกนั้นได้เลือนรางไป
The Witch: Part 2 – The Other One เกิดเรื่องราวของเด็กผู้หญิงได้ตื่นมาอยู่ข้างในห้องทดสอบขนาดใหญ่ คุณได้อุตสาหะแอบหนีออกมาจากตรงนั้น ทำให้ได้มาเจอกับ คยองฮี ที่บากบั่นปกป้องรักษาคุณจากกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมาย แม้กระนั้นเมื่อเด็กผู้หญิงจำต้องประจันหน้ากับพวกมันด้วยตัวเองโน่น คุณสามารถเอาชนะได้ด้วยพลังที่มากมายก่ายกองอย่างน่าทึ่ง ในเวลาเดียวกันก็มีคนอีกกรุ๊ปหนึ่งตามไล่ล่าเด็กคนนี้อยู่เช่นเดียวกัน คุณผู้นี้เป็นคนไหนกันแน่? แล้วเพราะอะไรถึงมีคนใดกันอยากได้ตัวเด็กผู้หญิงผู้นี้กันมากเท่าไรนัก?
พูดได้ว่ากลับมาสืบต่ออีกที ที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเป็นความบากบั่นที่จะยกฐานะแล้วก็ปลุกปั้นสร้างเป็นแฟรนไชส์หนัง The Witch ขึ้นมาตกแต่งแวดวงหนังประเทศเกาหลี ภายหลังที่ภาคแรกออกฉายไปเมื่อปี 2018 แล้วก็นับว่าทำกระแสตอบรับออกมาได้ค่อนข้างจะถูกใจดี กลับมาในคราวนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการเล่าในอีกส่วนที่ขยายออกไป และก็เดินเรื่องสม่ำเสมอจากภาคก่อนที่จะปูเอาไว้ ถึงแม้ผลสรุปของความอุตสาหะนั้นจะยังออกมาได้ยังไม่สุดทางสักเท่าไหร่ก็ตาม
ผู้กำกับ “พัคฮุนจอง” จากภาคแรกยังคงกลับมาสืบต่อเรื่องราวในพาร์ทนี้อีกรอบ แน่ๆว่าเขารู้จักแนวทางแล้วก็ส่วนประกอบหลักของหนังประเด็นนี้อย่างดีเยี่ยม ทำให้หนังยังสามารถอาจจะคอนเซ็ปต์ดิบหยาบคายรวมทั้งโหดเหี้ยมแบบไซไฟเอาไว้ก้าวหน้ายกตัวอย่างเช่นเดิม ส่วนประกอบรวมทั้งวางแบบงานสร้างต่างๆนับว่าถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างจะดีตามมาตรฐานเดิมที่เขาเคยสร้างเอาไว้ ถึงจำเป็นที่จะต้องพูดขวานผ่าซากเลยว่ายังมีสิ่งที่หายไปในหนังภาคนี้ก็คือ เสน่ห์ของหนัง ที่ออกจะหายไปอย่างโชคร้าย
The Witch: Part 2 – The Other One ถือเป็นการเล่าอีกด้านที่เป็นส่วนต่อขยายจากภาคแรก มีจุดที่เชื่อมโยงต่างๆเอาไว้พอควร ถือว่าการเดินเรื่องของภาคนี้เป็นไปตามสูตรสำเร็จแบบเดิม ราวกับหนังสำเร็จรูปทั่วๆไป ตลอด 2 ชั่วโมงของหนังไม่ค่อยชี้แจงเนื้อหาเชิงลึกออกมาเยอะแค่ไหนนัก แต่ว่าได้หยอดเงื่อนปัญหาทีละน้อยๆออกมาแบบไม่ไม่อ้อมค้อมเท่าใด ให้ความรู้ความเข้าใจสึกอย่างกับจะกั๊กเอาไว้ ถ้าว่าจะทำหนังออกมาในภาคถัดไปในทำนองนั้น
โทนของหนัง แม่มดฆ่า 2 ภาคนี้นั้นเช่นเดียวกับนั่งดูหนัง X-Men พวกมนุษย์กลายพันธุ์ของทางฝั่งฮอลลิวูด แม้กระนั้นใส่ร้ายหลอนฉบับทวีปเอเชียเข้าไปแทน บอกตรงๆหนังหัวข้อนี้มีความเหมือนกับ The New Mutants (ไม่วแทนท์แบบใหม่) หนังมนุษย์กลายพันธุ์ที่พึ่งออกฉายไปเมื่อไปนานนี้ (แม้กระนั้นทำคำตอบได้น่าผิดหวัง) เนื่องจากว่าหนังมาในโทนนั้น ก็แค่จังหวะค่อนข้างจะเงียบกว่า รวมทั้งออกจะอยู่เฉยมากมายไปสักนิด
แต่ก็แสดงของ “คุ้นชินชิอา” ผู้แสดงสาวดาวรุ่งคนใหม่ ที่นับว่าเดบิวต์งานแสดงจากหนังประเด็นนี้เกิดเรื่องแรกของคุณ ข้างหลังผ่านการออดิชั่นคัดตัวนักแสดงนับพันกว่าคนมาได้ หากว่าหน้าที่ของคุณในประเด็นนี้จะยังกล่าวได้ไม่ชัดเจนว่าสะดุดตา เพราะว่าบทยังไม่ค่อยส่งสักเท่าไหร่ ทั้งยังการแสดงผ่านลีลารวมทั้งอินเนอร์ต่างๆนั้น ในหนังประเด็นนี้ก็ยังไม่ส่องไฟสปอตไลต์ไปพบคุณได้อย่างชัดเจน แม้กระนั้นถือว่าการแสดงของคุณนั้นน่าดึงดูดอยู่ไม่น้อย
หนังยังมี 2 ดาราหญิงเจ้าหน้าที่ที่ใส่เข้ามาได้อย่างน่าดึงดูด อีกทั้ง “พาร์คอึนบิน” รวมทั้ง “ซออึนซู” ที่นับว่าเป็นติดอยู่แรกเตอร์เสร็จที่จำเป็นจะต้องต่อหนังประเด็นนี้ หากว่าพวกคุณจะเข้ามาเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเสริม แล้วก็จัดว่าเปิดตัวในภาคนี้ได้อย่างน่าดึงดูดพอได้ แม้กระนั้นก็แอบเสียดายที่ศึกษาค้นพบว่าหนังภาคนี้ลดสัดส่วนความโหฬารลงไปจากภาคแรกอย่างชัดเจน ด้วยเหตุว่าขั้นต่ำๆศิลปินก็มิได้เนื่องแน่นพอๆกับภาคแรกที่เคยทำไว้
เผื่อบางบุคคลสงสัยว่า หากไม่เคยมีประสบการณ์มอง The Witch: Part 1 มาก่อนนั้น จะยังสามารถดูหนังหัวข้อนี้เข้าใจไหม ก็จะตอบให้ได้ว่าคุณสามารถมอง The Witch: Part 2 ได้ทราบเรื่องอยู่ แม้กระนั้นบางครั้งก็อาจจะรู้สึกเบื้องต้นขาดๆหายๆไปสักนิดสักหน่อย เพราะเหตุว่าภาคนี้มิได้มีการปูพื้นเรื่องราวจากภาคที่แรกเอาไว้ให้เด่นชัดเท่าไรนัก อาจก่อให้ยังไม่คุ้นเคยกับนักแสดงเก่าๆที่มาโผล่ในภาคนี้ แม้กระนั้นแม้กระนั้น ก็จัดว่าภาคนี้โดยมากจะเป็นการแนะนำตัวละครใหม่ๆเข้ามาสมทบมากยิ่งกว่า
ตกลงว่าโดยภาพรวมนั้น The Witch: Part 2 – The Other One ก็นับได้ว่าเป็นหนังที่สืบต่อแล้วก็เดินเรื่องราวตลอดจากหนังภาคแรกที่ปูทางเอาไว้ แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าเป็นหนังที่ใช้สูตรสำเร็จรูปมาแทบจะชูแผง ทำให้หนังภาคนี้ค่อนข้างจะไม่มีเสน่ห์ในหลายๆส่วนประกอบไปอย่างโชคร้าย รายละเอียดของหนังน่าดึงดูดแต่ไม่อาจจะทำให้เร้าอารมณ์ผู้ชมก้าวหน้านัก เปลี่ยนเป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่ออกจะแห้งผากไปสักนิด แม้กระนั้นก็ยังมอบความสาแก่ใจและก็ตื่นตาตื่นใจกับพลังแปลกประหลาดรวมทั้งความทารุณไร้มนุษยธรรมเลือดอาบที่ใส่เข้ามาแบบไม่มากมายไม่น้อย